tag:blogger.com,1999:blog-80145175878402042112024-03-13T03:39:40.368-07:00.ดาhttp://www.blogger.com/profile/03839132352130698126noreply@blogger.comBlogger4125tag:blogger.com,1999:blog-8014517587840204211.post-48810477382670662382011-03-02T23:22:00.000-08:002011-03-02T23:24:07.019-08:00สื่อการสอนประเภทโสตทัศนูปกรณ์<br />Type of Audio Visual Equipments<br /><br />****************************************************<br /> <br />ทราบกันดีแล้วว่านักเทคโนโลยีการศึกษาได้จัดแบ่งประเภทของ สื่อการศึกษา แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ<br />1. ประเภทวัสดุ (Material or Software) ประกอบไปด้วย <br />• วัสดุที่เสนอได้ด้วยตัวมันเอง<br />• วัสดุที่ต้องอาศัยอุปกรณ์ เครื่องมืออื่นเป็นตัวนำเสนอ <br />2. ประเภทเครื่องมือหรือโสตทัศนูปกรณ์ (Device or Hardware) และนักเทคโนโลยีการศึกษา ยังได้จัดจำแนกโสตทัศนูปกรณ์ออกไปอีกเป็น 3 ประเภทคือ<br />1. โสตทัศนูปกรณ์ประเภทเครื่องเสียง<br />2. โสตทัศนูปกรณ์ประเภทเครื่องฉาย<br />3. โสตทัศนูปกรณ์ประเภทการรองรับ การบันทึก การจัดแสดง<br />3. ประเภทเทคนิคหรือวิธีการ (Technique or Method)<br />1. โสตทัศนูปกรณ์ประเภทเครื่องเสียง นับเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งในการสื่อสาร จากผู้ถ่ายทอดสารไปยังผู้รับสาร หรือจากสื่อที่ใช้เสียงในการเรียนรู้ ทำให้ผู้ฟังได้ยินเสียงอย่างชัดเจนดียิ่งขึ้นกว่าการพูดธรรมดา และยังเป็นสิ่งกระตุ้นความสนใจที่ช่วยให้ผู้เรียนหรือผู้รับสารเข้าใจเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น <br /> ความหมายของเครื่องเสียง เครื่องเสียงเป็นอุปกรณ์ที่เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดเนื้อหาประเภทเสียงจากมนุษย์และแหล่งกำเนิดเสียงต่างๆ ให้ดังมากขึ้นเพื่อให้ได้ระยะทางในการได้ยิน โดยมีองค์ประกอบหลักคือ ภาครับ ภาคขยาย และภาคส่งออก ซึ่งเป็นระบบการเพิ่มกำลังความดังของเสียงให้ชัดเจนและกว้างไกลมากขึ้น<br /> ความสำคัญของ “เครื่องเสียง” เสียงคนเราโดยปกติมีความดังประมาณ 60 เดซิเบล เท่านั้น และเสียงก็ไม่สามารถขยายให้ดังขึ้นหรือเก็บรักษารูปคลื่นไว้ได้ แต่เครื่องขยายเสียงสามารถเปลี่ยนเป็นคลื่นไฟฟ้าได้โดยการอาศัยทฤษฎีการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กผ่านขดลวด เครื่องเสียงจึงมีความสำคัญในการเป็นสื่อกลางของการเพิ่มความดังของเสียง เช่น เสียงจากการบรรยาย การเรียนการสอน รวมถึงแหล่งกำเนิดเสียงต่างๆ ด้วย<br />หลักการทำงานของเครื่องเสียง การเพิ่มความดังของเสียงให้สามารถได้ยินได้ฟังกันอย่างทั่วถึง มีองค์ประกอบแบ่งออกเป็น 3 ภาคได้แก่<br />1. ภาคสัญญาณเข้า (Input Signal) ภาคที่เปลี่ยนคลื่นเสียงธรรมชาติให้เป็นพลังงานไฟฟ้าความถี่เสียง ได้แก่ Microphone, CD player, Cassette tape, etc., เป็นต้น<br />2. ภาคขยายสัญญาณ (Amplifier) ทำหน้าที่รับสัญญาณไฟฟ้าความถี่เสียงมาขยายให้มีกำลังแรงมากขึ้น โดยไม่ผิดเพี้ยนจากแหล่งกำเนิดเสียง ได้แก่ เครื่องขยายเสียงประเภทต่างๆ หรืออุปกรณ์ที่บรรจุภาคขยายสัญญาณไว้ในตัว เช่น Mini component เป็นต้น<br />3. ภาคสัญญาณออก (Output Signal) ทำหน้าที่รับสัญญาณไฟฟ้าความถี่เสียง ที่ได้รับการขยายแล้วมาเปลี่ยนเป็นคลื่นเสียงธรรมชาติเหมือนต้นกำเนิดเสียงทุกประการ ได้แก่ ลำโพงชนิดต่างๆ<br /><br /> <br />Slide Projector Opaque Projector<br />2. โสตทัศนูปกรณ์ประเภทเครื่องฉาย โสตทัศนูปกรณ์ประเภทเครื่องฉายได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดความรู้เนื้อหาสาระเป็นอย่างมาก เป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดเนื้อหาบทเรียนประเภทสื่อโสตทัศน์ให้แก่ผู้เรียนหรือผู้ชม ทำให้เห็นสิ่งที่เป็นนามธรรมเป็นรูปธรรมได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งในลักษณะภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นสิ่งช่วยกระตุ้นความสนใจและช่วยให้เข้าใจเนื้อหาสาระได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น<br /> ความหมายของ “เครื่องฉาย” เครื่องฉายมีลักษณะเป็นอุปกรณ์ (Hardware) เป็นสื่อกลางหรือตัวผ่านในการถ่ายทอดข้อมูลเนื้อหาจากโสตทัศนวัสดุที่ไม่สามารถถ่ายทอดเนื้อหาได้ด้วยตัวเอง ทำให้เนื้อหา ข้อมูลปรากฏขึ้นบนจอรับภาพให้มองเห็นได้ <br /> ความสำคัญของเครื่องฉาย สื่อการสอนที่เห็นเป็นรูปธรรมได้แก่สื่อที่เป็นวัสดุและอุปกรณ์ สื่อวัสดุที่สามารถถ่ายทอดด้วยตัวเอง ได้แก่ รูปภาพ ของจริง ของจำลอง ฯลฯ และวัสดุที่ไม่สามารถถ่ายทอดได้ด้วยตัวเอง ต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วยให้เนื้อหาที่บรรจุอยู่ในสื่อวัสดุนั้นปรากฏออกมาให้มองเห็นหรือได้ยิน เช่น แผ่นโปร่งใส ฟิล์มสไลด์ ฟิล์มภาพยนตร์ เทปวีดิทัศน์ ฯลฯ แต่หากเป็นสื่อวัสดุที่บรรจุเนื้อหาประเภทภาพและเสียงแล้ว จำเป็นต้องอาศัยอุปกรณ์ประเภทเครื่องฉายที่ถ่ายทอดเสียงออกทางลำโพง โดยจะช่วยในการขยายขนาดของภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและเห็นได้อย่างชัดเจนทั่วทั้งห้อง ทำให้ผู้ชมสามารถเข้าใจได้ง่ายและรวดเร็ว เพิ่มความน่าสนใจรวมถึงมีความสนุกและตื่นเต้นเร้าใจเพิ่มมากขึ้นด้วย<br />องค์ประกอบในการฉาย <br />2.1 เครื่องฉาย (Projector) ใช้เป็นอุปกรณ์เครื่องมือในการถ่ายทอดเนื้อหาจากสื่อวัสดุ ปรากฏเป็นภาพหรือเสียงและภาพ ได้แก่ Over Head Projector, Slide Projector, Film Projector เป็นต้น<br />2.2 โสตทัศนวัสดุ (Materials) เนื่องจากเครื่องฉายจำเป็นต้องใช้ “แสง” ในการฉายภาพ ดังนั้นวัสดุที่ใช้ในการฉายจึงแบ่งออกเป็น 3 ชนิดคือ<br />2.1 วัสดุโปร่งแสง (Transparency) เป็นวัสดุที่ให้แสงผ่านได้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ได้แก่ แผ่นโปร่งใสที่ใช้กับเครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ<br />2.2 วัสดุกึ่งโปร่งแสง (Translucent) เป็นวัสดุที่ยอมให้แสงผ่านไปได้บ้าง แต่จะกระจายกระจายแสงทำให้ความเข้มลดลงด้วย เช่น ฟิล์มสไลด์ ฟิล์มภาพยนตร์<br />2.3 วัสดุทึบแสง (Opaque) เป็นวัสดุที่แสงผ่านไม่ได้ เช่น กระดาษ ของจริง ของตัวอย่าง เป็นต้น<br />วัสดุเหล่านี้จะต้องใช้กับเครื่องฉายที่มีระบบฉายแตกต่างกัน โดยต้องมีการบันทึกข้อมูลที่เป็นตัวอักษร ภาพ หรือภาพและเสียง ลงบนวัสดุนั้นให้เรียบร้อยก่อนนำมาฉาย<br />2.3 จอรับภาพ (Screen) เป็นจอหรือฉากสำหรับรับภาพที่ฉายมาจากเครื่อง ให้เห็นได้อย่างชัดเจน โดยปกติจะเป็นจอที่มีพื้นผิวเคลือบด้วยวัสดุที่มีคุณสมบัติในการสะท้อนแสงได้ดี แต่หากไม่สามารถหาได้จริงก็อาจใช้ผนังห้องสีขาวเป็นจอรับภาพแทนได <br /><br />ระบบฉาย เครื่องฉายต่างๆ สามารถจำแนกออกได้เป็น 3 ระบบ<br />1. ระบบฉายตรง (Direct projection)เป็นการฉายโดยให้แสงผ่านทะลุวัสดุฉายและเลนส์ฉายไปยังจอภาพในแนวเส้นตรง การใส่วัสดุต้องใส่ไว้หลังเลนส์ฉายในลักษณะตั้งฉากกับพื้น เหมือนกับภาพที่ปรากฏบนจอรับภาพ เนื่องจากเลนส์จะกลับภาพภาพที่ฉายออกไปเป็นด้านตรงข้าม ด้วยเหตุนี้จึงต้องใส่วัสดุฉายในลักษณะหัวกลับเสมอ<br /> <br /><br />2. ระบบฉายอ้อม (Indirect Projection) เป็นการฉายโดยให้แสงจากหลอดฉายผ่านขึ้นไปยังเลนส์ฉาย โดยมีการหักเหของลำแสงผ่านวัสดุฉายไปยังจอรับภาพ การใส่วัสดุฉายในระบบฉายอ้อมคือ ต้องวางวัสดุฉายในแนวระนาบบนแท่นเครื่องฉาย โดยหันด้านหน้าขึ้นบนและริมล่างเข้าหาจอ<br /> <br /><br />3. ระบบฉายสะท้อน (Reflected Projection) เป็นการฉายโดยให้หลอดฉายส่องตรงมายังวัสดุฉายก่อนแล้วจึงสะท้อนไปยังกระจกเงา ที่อยู่ด้านบนสุดของเครื่องสะท้อนแสงผ่านไปยังเลนส์ฉาย และส่องแสงปรากฏเป็นภาพบนจอรับภาพ การใส่วัสดุฉายในระบบฉายสะท้อนคือ ต้องวางวัสดุฉายตามลักษณะที่เป็นจริงในแนวระนาบบนแท่นวางของเครื่องฉาย<br /> <br />ภาพจาก สำนักนวัตกรรมการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยขอนแก่น<br /><br />3. โสตทัศนูปกรณ์ประเภทการจัดแสดง โสตทัศนูปกรณ์ประเภทนี้ ได้แก่ กระดานชอล์ค บอร์ดนิทรรศการ ป้ายนิเทศ บูธจัดนิทรรศการ ใช้ประกอบการนำเสนอเนื้อหาวิชา ด้วยการ ขีด-เขียน ปะติด จัดวาง ประดับตกแต่งให้มีความสวยงามตามความคิดสร้างสรรค์ของผู้จัดทำ สามารถลงรายละเอียดปลีกย่อยในสิ่งที่นำเสนอ ส่วนใหญ่ออกแบบมาให้เคลื่อนย้ายได้ บางชนิดติดตรึงอยู่กับที่ในห้องแสดง เช่น ในห้องเรียน ห้องนิทรรศการชั่วคราว นิทรรศการถาวร พิพิธภัณฑ์ ผู้ชมต้องเดินมาศึกษารายละเอียดด้วยตนเองยังสถานที่จัดแสดง<br /><br /> <br /><br /> <br /><br /> http://vdo.kku.ac.th/mediacenter/library/library.php?lang=th<br />http://www.oknation.net/blog/print.php?id=148850ดาhttp://www.blogger.com/profile/03839132352130698126noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8014517587840204211.post-36509198691010171852011-02-28T03:36:00.000-08:002011-02-28T03:38:06.232-08:00สื่อการสอนประเภทโสตทัศนูปกรณ์<br /><br />โสตทัศนูปกรณ์ หมายถึง วัสดุทั้งหลายที่นำมาใช้ในห้องเรียนหรือนำมาประกอบการสอนใด ๆ ก็ตาม เพื่อช่วยให้การเขียน การพูดการอภิปรายนั้นเข้าใจแจ่มแจ้งยิ่งขึ้น<br />สื่อการสอนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างประสบการณ์ทางการศึกษาให้แก่ผู้เรียน สื่อการสอนมีให้เลือกมากชนิด สิ่งสำคัญคือผู้สอนจะต้องเลือกและใช้สื่อการสอนให้เหมาะกับบทเรียน สื่อการสอนนั้นจะต้องใช้ได้อย่างสะดวกและที่สำคัญก็คือเมื่อนำมาใช้แล้วช่วยให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ<br />ประโยชน์<br /> 1. เพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร <br /> 2. สร้างความสนใจและช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้ชม <br /> 3.ส่งเสริมลักษณะการเรียนรู้และความเข้าใจ <br /> 4.ช่วยเพิ่มช่องทางในการรับส่งข้อมูล <br /> 5.เอาชนะข้อจำกัดบางประการของข้อมูลในการนำเสนอ <br /><br /> <br /><br /><br />ที่มา<br />https://sites.google.com<br />pineapple-eyes.snru.ac.thดาhttp://www.blogger.com/profile/03839132352130698126noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8014517587840204211.post-12487980769408866202011-01-21T22:26:00.000-08:002011-01-21T23:00:18.750-08:00เรียนรู้ เว็บบล็อควิชาเทคโนโลยีสำหรับครูรายวิชา เทคโนโลยีการศึกษา ภาคการศึกษา 2553<br />อาจารย์ผู้สอน อาจารย์สุจิตรา<br />นางชนรดา ชัยมงคล นักศึกษากศพช.รุ่น 11 สาขาการศึกษาปฐมวัย หลักสูตรปฐมวัย<br />ประวัติ<br />ชื่อ นางชนรดา ชัยมงคล ชื่อเล่น ดา เกิดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2520<br />ที่อยู่ 70/1 หมู่3 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี<br />ที่ทำงาน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านห้วยนำหนัก หมู่ 6 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวผึ้งจังหวัดราชบุรี<br />ประวัติการศึกษา ชั้นประถมและมัธยมศึกษาจากโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เพชรบุรี<br />ชั้นปวช.จากวิทายาลัยเกษตรและเทคโนโลยีราชบุรี<br />ปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง<br />ประสบการณ์การทำงาน เริ่มเข้าทำงานตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2542 จนถึงปัจจุบัน<br />เบอร์โทรศัพท์ 089-5483455 อีเมล <a href="mailto:chonrada25202@gmail.com">chonrada25202@gmail.com</a>ดาhttp://www.blogger.com/profile/03839132352130698126noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8014517587840204211.post-69575925209875552492010-07-16T20:02:00.000-07:002010-07-16T20:10:29.527-07:00ชนรดา ชัยมงคลชนรดา ชัยมงคล<br />ประวัติส่วนตัว<br />เกิดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2520<br />บ้านเลขที่ 70/1 หมู่ 3 ต. ตะนาวศรี อ. สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 70180<br />เบอร์โทรศัพท์ 0895483455 gmail chonrada2520ดาhttp://www.blogger.com/profile/03839132352130698126noreply@blogger.com0